หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ตบยางสาวไทย..ใจเกินร้อย


หนิงโบ ประเทศจีน, 1กรกฎาคม – ครบเจ็ดวันพอดี กับการที่นักตบลูกยางสาวทีมชาติไทยได้เดินทางมาแข่งขันวอลเลย์บอลระดับโลก “เวิลด์กรังปรีซ์ รอบสุดท้าย” ณ เมืองหนิงโบ ประเทศจีน ซึ่งสาวไทยยังคงสร้างผลงานได้สุดประทับใจทั้งกับกองเชียร์ชาวไทยที่ชมการแข่งขันผ่านการถ่ายทอดสด ช่อง 7สี และทีมต่างชาติที่เฝ้ามองฝีไม้ลายมือของสาวไทยที่พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งในสนามแข่งขันและผ่านการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก แม้ว่าโอกาสที่คนไทยทุกคนจะได้ชมการถ่ายสดมันไม่สามารถทำได้ทุกนัด แต่แค่นี้ก็ทำให้คนไทยหัวใจพองโต ได้มีโอกาสเห็นสาวไทยโลดแล่นอยู่บนเส้นทางการแข่งขันกับทีมระดับโลก ซึ่งจากผลงานที่ผ่านมา เป็นประจักษ์พยานได้ดีว่าสาวไทยเราได้พัฒนาไปถึงไหนต่อไหนแล้วขณะนี้

 ถ้าถามผมตรงๆ ก่อนติดตามนักตบลูกยางสาวไทยมาแข่งขันรายการนี้ ผมเองไม่เคยมั่นใจเลยว่าสาวไทยจะมาได้ไกลขนาดนี้ ผมไม่ได้จะดูถูกทีมที่ตนเองโปรดปราน แต่ผมมองว่าปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้ความคาดหวังของแฟนๆมันดูเหมือนไกลจากความจริงเหลือเกิน นักกีฬาเราเจอทีมหนักๆมาตลอดในรอบแรกสามสัปดาห์ที่ผ่านมา และเราใช้ผู้เล่นหมุนเวียนอยู่แค่ 7-8 คน จบสนามสามที่ไทย นักกีฬาก็แทบกรอบ ไม่ได้พักผ่อน ต้องเดินทางทันที แถมการเดินทางก็เป็นไปอย่างทุลักทุเล เดินทางช่วงเที่ยงคืน ไปเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินปักกิ่ง ต้องรออีกสามสี่ชั่วโมงกว่าจะได้เดินทางต่อ และเดินทางถึงหนิงโบ ก็ได้พักอีกไม่นาน รุ่งเช้าก็ต้องเริ่มแข่งขันทันที อุปสรรคมากมายกับการที่จะทำให้รู้สึกว่าแค่เล่นได้สูสี โดยไม่คำนึงผลแพ้ชนะในรายการนี้.. ก็เกินคาดแล้ว แต่..นักตบลูกยางสาวไทยไม่เคยทำให้เราผิดหวังเลย

 เราเล่นกับตุรกี ทีมที่ได้แชมป์คัดโอลิมปิคโซนยุโรปได้ 1-3 จนเกือบชนะ และใครหลายคนก็มองเห็นศักยภาพของสาวไทยว่าหากมีความพร้อมทางร่างกายมากกว่านี้ เราชนะนัดนั้นแน่ๆ ต่อมาเราก็เจอสหรัฐอเมริกา ชนะมาหนึ่งเซ็ต ทำให้ฮิว แม็คคั่นชั่น โค้ชสหรัฐอเมริกาชมไทยเปาะว่าเล่นดีขึ้นมาเรื่อยๆ จนน่าจะเป็นอีกทีมที่มีการพัฒนาสูงขึ้นจนน่าจับตามอง นัดที่สามสาวไทยเราก็สร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญได้อีก เพราะสยบหมวยจีนคาดินแดนจีนผืนแผ่นดินใหญ่ได้เป็นครั้งแรก และยังเป็นชัยชนะเหนือทีมที่ได้ชื่อว่าเป็นแชมป์เอเซียและแชมป์เอเชี่ยนเกมส์ ได้เป็นครั้งที่สองติดต่อกันในการแข่งขันเวิลด์กรังปรีซ์ รอบสุดท้ายนี้ นัดที่สี่ แม้ไทยจะพ่ายบราซิล แชมป์โอลิมปิคสามเซ็ตรวด แต่คะแนนที่เราไล่เบียดสาวแซมบ้าในสองเซ็ตแรก ก็ทำให้นายโจเซ่ โรแบร์โต กีมาเรซ โค้ชชาวบราซิลชมสาวไทยว่าพัฒนาทีมขึ้นมาจนน่ากลัว แถมหยอดคำชมให้นายเกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร “โค้ชอ๊อด” ว่าเป็นคนสำคัญของวงการวอลเลย์บอลไทยไปแล้ว



 วันนี้วันสุดท้ายของการแข่งขัน สาวไทยเจอกับคิวบา เจอกันมาหลายครั้ง ตั้งแต่สมัยที่ไทยได้เข้ามาเริ่มแข่งเวิลด์กรังปรีซ์ครั้งแรก เมื่อปี 2002 และเป็นฝ่ายไทยที่พ่ายมาตลอด แต่นั่นมันนานมาแล้ว เดี๋ยวนี้ไทยเป็นฝ่ายกำชัยเหนือคิวบามาตลอด สามครั้งล่าสุดที่พบกัน ไทยชนะมาทุกนัด

 กองเชียร์ไทยและกูรูวอลเลย์บอลเมืองไทยอีกมากมายคิดว่ายังไงวันนี้เราต้องชนะคิวบา เพราะเจอกันมา เราชนะสามนัดติดต่อกันแล้ว วันนี้จะไม่ชนะได้ไง โค้ชอ๊อดและโค้ชด่วน เทรนเนอร์ทีมชาติยอมรับในช่วงสนทนาที่โต๊ะอาหารเช้าวันนี้ว่า..ยอมรับว่าไม่ง่ายเลย คิวบาเป็นทีมที่เล่นดี ตีหนัก ได้เปรียบสูง แต่ที่เราชนะมา เป็นเพราะทีมเขาเล่นผิดพลาดเองมาก

 

 นั่นไม่ใช่เป็นการดูถูกทีมตนเอง แต่เป็นการมองการณ์ไกล ให้สาวไทยได้รู้ว่าจะประมาทกับทีมใดไม่ได้ ต้องเต็มที่และเล่นด้วยความฉลาด อ่านเกมคู่แข่งให้ออก ลดข้อผิดพลาดของตัวเอง เล่นตามแผนที่สต๊าฟโค้ชวางไว้ และนั่นคือกุญแจสู่ความสำเร็จ แต่อย่างไรก็ตาม หากว่าทุกอย่างไม่ได้เป็นไปอย่างที่คาดหวัง ก็ไม่เป็นไร ถือว่าสาวไทยเดินมาไกลโขแล้วกับการแข่งขันระดับนี้ แต่หากย้อนมาถามผม ผมว่าเราชนะได้ แค่ชนะได้นะครับ ไม่ได้หมายความว่าชนะแน่ ณ เวลานี้ ผมคิดว่านักกีฬาพร้อมแล้วครับ พร้อมที่จะหลอมใจให้เป็นหนึ่งเดียวอีกครา กับสัญญาของตัวเองว่า..ชัยชนะเหนือคิวบา เป็นเป้าหมายหนึ่งที่สาวไทยมุ่งมั่นจะทำให้ได้ในรายการนี้

 เมื่อเช้า นักกีฬาตื่นลงไปทานอาหารเช้าที่โค้ชอ๊อดนัดตอนเก้านาฬิกาตรง สังเกตสีหน้า ทุกคนสดใส หลังได้พักผ่อนเต็มที่ โค้ชอ๊อดบอกว่าบางคนยังแสดงอาการอ่อนล้าอยู่ แต่คิดว่าไม่มีปัญหาอะไร สำหรับหน่อง ปลื้มจิตร์ อาการบวมที่มือข้างขวาก็ดีขึ้น เมื่อเช้าเท่าที่สังเกต ไม่ได้พันผ้าไว้ที่มือแล้ว เดินลงมาทานอาหารเช้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสกันทุกคน กายพร้อม ใจพร้อม ผมมั่นใจว่าสาวไทยเต็มที่แน่กับนัดสุดท้ายวันนี้

 ว่ากันว่าการได้ทำอะไรที่เราชอบมักจะมีความสุข และสิ่งที่เราทำก็มักจะออกมาได้สมดั่งที่ใจเราต้องการ ผมว่าผมชอบดูทีมนักตบลูกยางสาวไทยลงแข่งขัน มันมีโอกาสได้ลุ้นระทึกเสมอ และสาวไทยก็มักจะเล่นเต็มร้อย ผมขนลุกทุกที่ที่สาวไทยเล่นดีขนาด หลายครั้งเผลอยืนปรบมือด้วยความสะใจ ลืมไปว่าตัวเองเป็นนักข่าวที่ควรจะเป็นกลาง เพียงแต่แค่แอบเชียร์ทีมตนเองในใจ

 ในรอบสุดท้ายที่หนิงโบ ถามว่าผมประทับใจสาวไทยเจอทีมไหนมากที่สุด แน่นอนครับ ผมชอบนัดที่เจอกับจีนเจ้าภาพ คราวนี้จีนจัดเต็ม ในทีมเขาสูงเกิน 190 ซม. อยู่ห้าคน นอกนั้นสูง 180ซม. ขึ้นไปทั้งหมด ยกเว้นลิเบอโร่ทั้งสองคนทีสูง 168ซม. และ 167ซม. หันมามองทีมไทย สูงสุดในทีมเราคือปลื้มจิตร์ ถินขาว แค่180 ซม. แต่แล้วเราก็พิสูจน์ให้โลกเห็นว่าเราไม่เป็นรองใคร แม้จะเล่นด้วยความกดดันจากกองเชียร์หลายพันคนในสนาม ตอนจบการแข่งขัน กองเชียร์ชาวจีนยืนปรบมือให้สาวไทย ผมเองยิ้มในใจ แอบมีน้ำตาซึมเล็กๆ เราทำได้อีกแล้ว และทำได้ดีด้วย อยากให้ความรู้สึกนี้รับรู้ได้ด้วยกองเชียร์ไทยที่ไปอยู่ในสนามที่ถูกล้อมรอบด้วยกองเชียร์คู่แข่งจำนวนมโหฬาร มันกดดันมากมายจริงๆ

 จากทีมที่ไม่ได้อยู่ในสายตาทีมใดในระดับโลกเลย บัดนี้แต่ละทีมต้องคิดใหม่หลายๆรอบ เจอทีมไทย ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป สาวไทยหัวใจแกร่งเกินใคร หากคุณจะมาเอาชนะสาวไทยด้วยกำลังกาย บอกได้คำเดียว ไม่มีทาง เพราะแค่กำลังใจ คุณก็แพ้สาวไทยเราไปกว่าครึ่งแล้ว วันนี้สาวไทยเราจะพิสูจน์อีกครั้งว่าพวกเธอแข็งแกร่งเพียงใด เราจะเชียร์พวกเธอไปด้วยกัน แพ้ชนะ..ไม่เป็นไร เป็นเรื่องของเกมกีฬา มาได้ไกลขนาดนี้...ผมปลื้มใจ โดยไม่จำเป็นต้องไปกระซิบบอกปลื้มจิตร์...แน่นอน

 
 ปรีชาชาญ วิริยานุภาพพงศ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น